กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ แฮปปี้สวีทหวาน มาริโอ้ เรียกแทนกันว่า บี๋

กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เผยรัก มาริโอ้ เมาเร่อ สวีทหวาน แฮปปี้ ปฏิบัติกันฉันแฟน-เรียกแทนกันว่า ‘บี๋’ ปัด ไม่ถ่ายแบบคู่เพราะกลัวอาถรรพ์ แจงหน้าฝ่ายชายสวยกว่า-ถ่ายคู่กันคงเหมือนฆ่าตัวตาย ยันสันพันธ์ครั้งนี้ไม่มีคำมั่นสัญญา รู้ดีอยู่ในช่วงวัยรุ่น ขอคบและดูใจกันเรื่อยๆ ดีกว่า…

หลังกจากที่ฝ่ายชาย ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ ออก มายืดอกยอมรับใช้คำว่าแฟนอย่างเป็นทางการแล้ว ทางฟากหวานใจฝ่ายหญิง “กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” ที่มาร่วมบวงสรวงเปิดกล้องละคร “มณีแดนสรวง” ณ บ.บรอดคาซท์ ก็ได้เปิดใจยอมเผยสถานนะตอนนี้เรียกแฟนกับหนุ่มโอ้ได้เต็มปากแล้ว แต่ไม่ได้ควงกันออกงานคู่จี๋จ๋าพรีเซ็นต์อะไรมาก และ สบายใจหลังเปิดใจคบกันใหม่ เผยแฮปปี้ สวีทหวานปฏิบัติต่อกันฉันแฟนมากขึ้น เรียกแทนกันว่า “บี๋” งานนี้มีหวานจนมดเรียกพี่กันเลยทีเดียว ส่วนผู้จัดการส่วนตัว “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” ก็แฮปปี้ เพราะว่าปวดหัวมากตอนทั้งสองทะเลาะกัน งานนี้เจ้าตัวมีเขินเมื่อโดนถามว่าจะถ่ายแบบคู่กันไหม และบอกว่าคงไม่เพราะหน้ามาริโอ้สวยมาก กลัวตัวเองจะดร็อปลง แต่ ไม่เกี่ยวกับอาถรรพ์ที่คู่ไหนถ่ายแบบคู่กันแล้วต้องเลิก ส่วนของแลกแทนใจนั้นเจ้าตัวก็บอกว่ายังไม่มี แต่คงจะลองกลับไปทวงฝ่ายชายบ้างเหมือนกัน พร้อมทั้งเผยอีก ว่าการคบกันครั้งนี้ตนและฝ่ายชายไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กัน เพราะรู้ดีอยู่ในช่วงวัยรุ่นที่ต้องทำอะไรอีกเยอะ จึงอยากคบดูใจกันไปเรื่อยๆ ดีกว่า

มาริ โอ้เปิดตัวเต็มที่ว่าเป็นแฟนกันแล้วแล้วกุ๊บกิ๊บล่ะ? “ตา มนั้นน่ะ บ้า เขินบ้างอะไรบ้าง เห็นหนูฮาหนูก็เขินนะ ก็ดีค่ะ เปิดตัวนะ แต่ไม่ได้พรีเซ็นต์มาก เปิดตัวก็ให้รู้ว่าคบกันฐานะอะไร แต่ไม่ถึงกับต้องออกงานคู่จี๋จ๋า ให้คู่ว่าคบกันปกติก็เหมือนคนทั่วไป” แสดงว่าต้องชัดเจนกันก่อนออกมาพูด ช่วงนั้นเป็นไง? “ก็ขรุขระพอสมควร ใช้เวลานานนะ ตั้งแต่ก่อนเดือนก.พ. ก็พิสูจน์หลายอย่างทำให้เรามั่นใจ โอเคพูดได้” ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไปมั้ย? “ถ้า มีงานน้อยกว่านี้คงเปลี่ยน แต่ก็มีเวลาเจอกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น พูดจาเพราะขึ้น เมื่อก่อนใช้สรรพนามสัตว์ใหญ่ เดี๋ยวนี้อาจจะเป็นคุณโอ้ คุณกุ๊บกิ๊บ ไม่ค่อยมีตบหัวจิกหัว” พี่เอว่าไงเพราะเหมือนมีข่าวว่ามีเอไม่นิยมให้เด็กในสังกัดเป็นแฟนกัน? “พี่เอแฮปปี้ เพราะว่าปวดหัวเหลือเกินตอนพวกหนูทะเลาะกัน เพราะเราสนิทกับพี่เอทั้งคู่ ตอนนี้เค้าก็สบายใจ ถือแอร์เมสสบาย”

เราเองล่ะสบายใจมั้ย? “สบายใจ ค่ะ พูดตรงๆว่าไม่มีผลกระทบกับงาน ชีวิตประจำวันหรือแฟนคลับ อย่างที่บอกว่าเราพูดให้รู้ว่าคบกันยังไง ไม่ได้ปิดบัง แต่ไม่ได้เปิดตัวจนน่าเกลียดจนแฟนคลับรู้สึกรับไม่ได้” ก่อนหน้านี้ตอนไม่ชัดเจนอาจจะไม่ได้เห็นออกงานคู่ ถ่ายแบบคู่ แล้วตอนนี้มีโอกาสได้เห็นมั้ย? “ไม่เห็น(ยิ้ม) งานก็งาน หนูกับเค้ามันคนละสาย เค้าพระเอก ไม่เอาอ่ะ หนูว่าหนูฆ่าตัวตาย ถ้าถ่ายคู่มาริโอ้” ไม่เอาเลยเหรอ? “ไม่ อ่ะ หนูถ่ายคู่กับผู้ชายคนอื่นหล่อน่ารักกว่า หนูยังสวยอยู่ แต่ถ่ายกับมาริโอ้ไม่ไหวอ่ะ หนูตายเลย หน้ามันสวยกว่าหนู งานคู่ถ่ายแบบ เว้นไว้ก่อน” ไม่ใช่ว่ากลัวอาถรรพ์? “ไม่อาถรรพ์หรอก พี่ๆเห็นมาตั้งแต่7-8ขวบ” ถ้าไปไหนมาไหนด้วยกันล่ะ การแสดงออกเป็นไง? “ก็สวีทสิ(ทำเสียงสูง) สวีท สวีท จับมือบ้างไรบ้าง ควงแขนก๊อกแก๊ก เขินๆ(หัวเราะ)”

แล้วโอ้ล่ะ เค้าสบายใจมั้ย? “สบายใจ ค่ะ ต้องบอกว่าโอ้เค้าไม่ใช่คนที่จะมาปิดอะไร เป็นคนตรงๆ ตอนเค้าเข้ามาแรกเค้าสนิทกับหนูที่สุดเค้าก็บอก อย่างตอนนี้เค้าก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แค่เดินจับมือ ไม่ได้มาเดินกอดหอมอะไรกันซะหน่อย ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด เลยไม่ได้รู้สึกมีผลกระทบ” เป็นแฟนแล้วมีของอะไรแทนใจมั้ย? “นั่นน่ะสิ มีมั้ยมาริ ไม่มีเลย” แลกแหวน? “ไม่ มีเล้ย ช่วงนี้ทำงาน ล่าสุดไปเกาหลีมา โอ้ไปทำงาน ก็ไปเจอเพื่อน ลีแฮวูที่เคยเล่นหนังกับโอ้ ไปเจอวันเกิดเค้า ก็แทบไมไ่ด้เที่ยวกันเลย หนูก็ไปเดินช็อปปิ้งคนเดียว เพราะโอ้ก็ทำงานของเค้า แทบไม่มีเวลาให้กัน แต่เดี๋ยวหนูจะไปลองถามเค้าดูนะ ว่าจะมีของแลกให้กันรึเปล่า ทริปนี้ก็ไปกันหลายคน มีพี่พลอย หอวัง พี่พลอย…และทีมงานผู้โชคดี”

ไม่มีมุมสวีทบ้างเหรอ? “สวีทก็มีไปช็อปปิ้งกัน2คนไง แต่ไม่มีของมาแลกกัน รออยู่” ก็ให้เค้าก่อนเลย? “จริงเหรอ ไม่เอา เราต้องดูก่อนว่าเค้าให้อะไรเรา เดี๋ยวไม่คุ้มกัน แล้วค่อยให้กลับ” มีโอกาสเล่นละครด้วยกันมั้ย? “ต้องลองถามผู้จัด คือถ้าเรื่องละครแล้วบังเอิญได้มาเจอกันคงไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องของงาน มีสิทธิ์เจอกันได้ แต่เรื่องถ่ายแบบคงยัง” เดี๋ยวนี้เรียกโอ้ว่าที่รักมั้ย? “ไม่ที่รัก เรียก “บี๋” เค้าก็เรียกเรา “บี๋” ลอกคนอื่นเค้ามา เขินอ่ะ ก็มีห้าวบ้างเวลาอยู่กับเพื่อน เวลาอยู่สองคนก็บี๋ๆ” ช่วงนี้ดูชุ่มฉ่ำเนอะ? “งานก็ฉ่ำ หัวใจก็ฉ่ำ งานฉ่ำได้อีก จ้างได้อีกค่ะ” ตกลงเป็นแฟนมีให้คำมั่นสัญญาอะไร? “ไม่ ให้ค่ะ หนูคิดว่าเรื่องอนาคตไม่มีใครรู้ คือตอนนี้คบกันมันไม่ได้มีอะไรให้ทำเยอะ เราก็อยู่ในช่วงทำงาน ยังไม่ได้อยู่ในอายุที่จะคิดถึงอย่างอื่น อย่างบางวันโตหน่อยก็คิดเรื่องแต่งงาน แต่พวกหนูยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น มีเรื่องอื่นให้คิดเยอะ ไม่ต้องมีคำมั่นสัญญาอะไร ไปเรื่อยๆค่ะ”.